แบบบ้านสวนรีสอร์ทชั้นเดียว
แบบบ้านสวนรีสอร์ทชั้นเดียว รื่นรมย์ไปกับกลิ่นไอของธรรมชาติ มาพร้อมบรรยากาศปลอดโปร่งรับลม ชมวิว เย็นสบาย
แบบบ้านสวนรีสอร์ทชั้นเดียว ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ มักจะสร้างบ้านสวนชั้นเดียวเพราะมีบรรยากาศที่ดี และใช้งบประมาณในการสร้าง ไม่เยอะมากนักแถมยังสะดวกในการดูแลรักษาได้ง่าย และในวันที่แสนเหนื่อยล้าจากการทำงาน จากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ การได้เดินทางไปยังสถานที่ พักผ่อนที่เรียกได้ว่าบ้านสวน หรือบ้านตากอากาศ ก็สร้างความสดชื่นปนอิ่มใจได้ยาวนาน ผ่อนคลาย เป็นพื้นที่หย่อนใจ
บ้านสวนสไตล์รีสอร์ท บ้านที่ผสมผสาน ความเป็นธรรมชาติเข้ากับพื้นที่ของบ้านทั้งภายในและภายนอก ทำให้ผู้พักอาศัยได้สัมผัสบรรยากาศของบ้านใกล้ชิดธรรมชาติที่โปร่งสบาย ร่มรื่น ชวนผ่อนคลายเสมือนพักผ่อนในรีสอร์ทส่วนตัวในทุกๆ วัน โดยไม่ต้องรอวันหยุดหรือวันว่าง
ภายในบ้าน พื้นที่ภายนอกบ้าน และลานกิจกรรมส่วนกลางที่มีความเป็นธรรมชาติ และเป็นส่วนเชื่อมโยง พื้นที่ภายนอกและภายใน มีฟังก์ชันรองรับไลต์สไตล์อย่างครบครัน และด้วยพื้นที่ที่ถูกเติมเต็มไป ด้วยธรรมชาตินี้ จึงนำมาซึ่งความโดดเด่น ของบ้านสวนสไตล์รีสอร์ท ที่ครองใจคนรักธรรมชาติ
แบบที่ 1 บ้านสวนรีสอร์ทสุดน่ารัก สไตล์มินิมอล เรียบเก๋มากๆ
บ้านสวนรีสอร์ทเป็นบ้านขนาดชั้นเดียว หลังนี้ตัวบ้านมีรายละเอียดการออกแบบที่เรียบง่าย โดยจะหยิบเอางานตกแต่งแบบมินิมอลมาใช้ ซึ่งจะสะท้อนจากรูปทรงของบ้านที่เรียบง่าย ไม่เน้นรายละเอียดการตกแต่ง ผสานกับโทนสีอ่อนของตัวบ้านทั้งหลัง บ้านจัดสรร
ในการเลือกใช้หน้าต่าง สถาปนิกได้ติดตั้งทั้งหน้าต่างทรงกลม รวมถึงหน้าต่างทรงสี่เหลี่ยมเอาไว้โดยรอบ นอกจากนี้ยังมีเฉลียงหน้าบ้านเอาไว้ใช้งานตามความต้องการอีกด้วย ภายในบ้านจะออกแบบห้องโถงในลักษณะเพดานยกสูง เพื่อชดเชยขนาดที่เล็กของบ้าน จึงช่วยให้บ้านดูปลอดโปร่งไม่อึดอัดนั่นเอง
ภายในห้องโถงจะแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นห้องนั่งเล่นและห้องครัว โดยพื้นที่ของห้องครัวจะมีเคาน์เตอร์ครัวแบบติดผนังเอาไว้ใช้งาน พร้อมกับมีเคาน์เตอร์บาร์ที่เอาไว้ใช้นั่งรับประทานอาหาร เช่นเดียวกันกับห้องนอน ที่ภายในห้องจะมีเพดานที่ยกสูง พร้อมกับมีหน้าต่างหลายมุมทั้ง
แบบสี่เหลี่ยมและแบบทรงกลม ล้วนแต่ช่วยให้ห้องโปร่งสบายสุด ๆ ภายในห้องนอนจะมีพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างกว้าง จึงจัดพื้นที่มุมห้องเอาไว้ เป็นมุมสำหรับการทำงานอีกด้วย เหมาะกับการ Work from home ในยุคนี้อีกด้วย
แบบที่ 2 แบบบ้านสวนบนเนิน ออกแบบในสไตล์รีสอร์ท ร่วมสมัยเรียบง่าย
แบบบ้านสวนบนเนิน ออกแบบในสไตล์รีสอร์ท ร่วมสมัยเรียบง่าย เข้ากับบริบทของธรรมชาติ เน้นฟังก์ชันเพื่อการพักผ่อน ลักษณะบ้านชั้นเดียว ดีไซน์รูปทรงตัวแอล หลังคาทรงปั้นหยา ตัวบ้านถูกจัดวางไว้บนเนินที่พื้นดินไม่ราบเรียบ จึงออกแบบโครงสร้างยกพื้นสูง เพื่อปรับระดับพื้นบ้านให้รับกับที่ดิน ผนังภายนอกถูกติดตั้ง ด้วยหน้าต่างกระจกโปร่งแสงขนาดใหญ่ ที่สูงยาวจากพื้นถึงฝ้าเพดาน สร้างบรรยากาศที่โปร่งโล่งสะดวกสบาย ให้กับพื้นที่ภายในอย่างเต็มที่
บ้านหลังนี้มีเฉลียงไม้ขนาดใหญ่ ที่ถูกออกแบบไว้เป็นมุมพักผ่อน สามารถจัดที่นั่งเล่นได้ตามชอบ เสริมความสวยงามด้วยระแนงไม้ติดฝ้าภายนอก เปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยได้ ใช้งานพื้นที่ตรงนี้พร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติรอบๆ ได้อย่างเต็มที่ ห้องนั่งเล่น ตกแต่งด้วยโทนสีเบจเป็นหลัก ให้บรรยากาศที่ดูอบอุ่นเป็นกันเองสุดๆ ตกแต่งฝ้าเพดานหลุมทรงกลมพร้อมโคมไฟพัดลมดีไซน์สวยงาม ในส่วนของห้องนอนก็มีการตกแต่ง ที่อบอุ่นเป็นกันเองในโทนสีเบจเช่นกัน ซึ่งการใช้ผนังกระจกโปร่งแสงเช่นนี้ ทำให้บริบทภายในดูไม่อึดอัดเลยแม้แต่น้อย
แบบที่ 3 แบบบ้านสวนหลังเล็ก แสนอบอุ่น และเพียงพอ
บ้านสวนหลังเล็ก คับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก คำกล่าวนี้เหมือนจะเป็นจริงอยู่เสมอ เพราะแม้พื้นที่จะกว้างขวาง แต่หากอยู่แล้วไม่สบายใจ ก็คงทำให้รู้สึกไม่อยากอยู่ กลับกันแม้พื้นที่ที่มีอยู่จะเล็ก แต่สามารถสร้างความสบายใจได้ ก็บ้านสวนหลังเล็ก หลังนี้สร้างความสุขใจ อบอุ่นให้กับผู้พักอาศัย ก็เลยทำให้ไม่อยากไปไหน เช่น บ้านชั้นเดียวหลังน้อย
ที่ดีไซน์อย่างเรียบง่าย ขนาดพื้นที่ใช้สอยเพียง 30 ตารางเมตร บ้านเดี่ยว เปรียบเสมือนคอนโดในเมืองห้องหนึ่ง แต่ความแตกต่างอยู่ที่ ความรู้สึกที่มีอิสรภาพท่ามกลางความ เป็นธรรมชาติที่ไม่สามารถหาได้จากในเมือง
แม้ว่าจะมีที่ดินสำหรับสร้างบ้านเยอะ เจ้าของกลับเลือกที่จะก่อสร้างบ้านหลังเล็กเพื่อใช้ชีวิตอย่างสันโดษ พื้นที่ว่างรอบบริเวณจึงเป็นสวน แปลงผัก และก็ที่วิ่งเล่นของเด็กๆตัวบ้านมีการยกพื้นนิดหน่อย มีบันไดสองขั้นสำหรับขึ้นลง ชานระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน นับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างดีทั้งยังในตอนเช้า ยามเย็น นั่งจิบชา กาแฟ พร้อมด้วยทอดสายตา ดูความสงบที่อยู่ตรงหน้าอย่างเงียบๆ ก็สุขเต็มหัวใจ
ภายในบ้านมีความเป็นธรรมชาติสูง ใช้ไม้สีน้ำตาลทั่วทั้งยังหลัง อีกทั้งฝ้าเพดาน ฝาผนังและพื้น เปิดโปร่งให้โล่ง เพื่อพื้นที่เล็กๆ ได้มีอิสระเชื่อมโยงถึงกัน มีช่องหน้าต่างกระจกไว้รับแสงไฟรอบบ้าน รวมทั้งมีประตูบานสไลด์ 1 คู่อยู่ตรงกับพื้นที่นั่งพักผ่อน เคาน์เตอร์ห้องครัวติดติดผนังด้านหลัง ติดตั้งเครื่องดูดควันไว้เรียบร้อย ทำอาหารได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องควันรวมทั้งเรื่องกลิ่น โต๊ะทานอาหารทรงกลม เลือกสีน้ำตาลเข้ม เพื่อความสะดุดตาและก็ความแตกต่างจากสีโดยรวมของห้อง
ภายในบ้านหลังนี้ไม่มีห้องนอน แยกเป็นสัดเป็นส่วน แต่สามารถวางที่นอนนอนบนพื้นตรงรอบๆมุมนั่งพักผ่อนได้แบบสบายๆคือการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ให้คุ้ม ห้องอาบน้ำแล้วก็สุขา แยกโซนจากกันอย่างเห็นได้ชัด ด้วยพื้นที่ไม่เยอะก็เลยจำเป็นต้องติดพัดลมดูดอากาศแล้วก็เปิดช่องหน้าต่างไว้รับแสงสว่าง ช่วยให้ไม่อับชื้นและไม่เป็นที่หมักหมมของเชื้อโรค
แบบที่ 4 แบบบ้านไม้ สไตล์รีสอร์ทชั้นเดียว
บ้านไม้ สไตล์รีสอร์ทชั้นเดียว ออกแบบให้ทันสมัย และกลมกลืนกับธรรมชาติ ในยามที่ต้องการความผ่อนคลาย ผู้อ่านจินตนาการถึงบ้านแบบนั้น สำหรับผู้เขียนเองนึกถึงบ้านไม้ที่มีบรรยากาศ ร่ายล้อมไปด้วยธรรมชาติ พื้นที่ใช้สอยไม่ต้องเยอะ แต่ต้องมีระเบียงกว้าง ๆ ไว้สำหรับออกไปนั่งชมนกชมไม้ได้อย่างสำราญอุรา และบ้านชั้นเดียวหลังนี้ก็ คลับคล้ายคลับคลากับแบบบ้านที่อยู่ในจินตนาการเหลือเกิน
พื้นที่สร้างเป็นที่ดินสโลป ติดเนินเตี้ย ๆ ตัวบ้านจึงต้องมีการยกพื้นปรับระดับให้เสมอกัน ดีไซน์ภายนอกมีความทันสมัย เหมาะกับยุคปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความอบอุ่น กลมกลืนกับพื้นที่สีเขียวและเหล่าแมกไม้รอบด้าน ด้วยไม้สีน้ำตาลที่นำมาใช้ทั้งในส่วนของผนัง เพดาน และพื้น ความเป็นธรรมชาติไม่ได้มา จากวัสดุไม้เพียงอย่างเดียว
ผนังในบ้านบางมุมได้ตกแต่งด้วยหินกาบสีเทา ๆ ยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่ได้ชิดใกล้ กับธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม ประตูกระจกบานเลื่อน และผนังกระจกบานใหญ่ ช่วยเปิดมุมมอง ทัศนียภาพจากภายใน และด้วยสีเขียวที่ล้อมรอบอยู่ทุกด้าน จึงทำให้ต้องตกแต่งทุกห้องให้ได้รับวิวอันสวยงามอยู่เสมอ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในบางชิ้น เช่น เคาน์เตอร์ครัว โต๊ะรับประทานอาหาร โซฟา จึงต้องวางในแนวเฉียง เพื่อให้ได้ชมวิวสวยได้มุมกว้างอย่างถนัดตา phuket property
ความโดดเด่นที่สุดของบ้านชั้นเดียวหลังนี้ คือ ระเบียงอันกว้างขวาง ที่สามารถรองรับแขก สนิทมิตรสหายได้อย่างมากมาย ระเบียงปูพื้นไม้เรียงตัวเป็นแนวขวาง ทำหน้าที่เชื่อมโยงห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และห้องแฟมิลี่มาสู่จุดศูนย์รวมกลางแจ้ง ซึ่งอยู่ตรงส่วนหลังของบ้าน นอกจากกว้างแล้ว ยังออกแบบให้มีสองระดับ เลือกได้ว่าอยากใช้ระเบียงที่ใกล้ตัวบ้าน หรือใกล้ชิดสวน แม้ทั้งสองส่วนจะห่างกันไม่มาก แต่ความรู้สึกที่ได้รับย่อมแตกต่างกันแน่นอน และนั่นจะยิ่งทำให้ช่วงเวลาของ การพักผ่อนไม่จำเจ ไม่น่าเบื่อ มีความเพลิดเพลินตลอดทุกวัน ทุกเวลา
ข้อดีของบ้านสไตล์รีสอร์ท
- มีธรรมชาติพร้อมต้อนรับตั้งแต่ทางเข้าบ้าน
บ้านสไตลล์รีสอร์ทจะมี การออกแบบพื้นที่ให้เข้า ถึงธรรมชาติตั้งแต่บริเวณทางเข้าบ้านถึงตัวบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถสัมผัสความสดชื่นทุกครั้งที่กลับเข้าภายในบ้าน และรู้สึกผ่อนคลายต่างจากพื้นที่นอกรั้วบ้าน - มีสวนธรรมชาติให้ความผ่อนคลาย
ธรรมชาติเป็นเหมือนทางลัดสร้างความผ่อนคลาย การออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทจึงมีพื้นที่ธรรมชาติ เป็นสัดส่วนสำคัญ โดยส่วนประกอบของส่วนอาจมีบ่อปลา น้ำตก โขดหิน ต้นไม้นานาพันธุ์ และเสียงจากธรรมชาติที่ผู้พักอาศัยได้สัมผัสเมื่อไร ก็รู้สึกถึงคำว่าพักผ่อนอย่างแท้จริง - มีการออกแบบพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทได้ดี
บ้านสไตล์รีสอร์ทจะถูกออกแบบ พื้นที่ให้มีความร่มรื่น น่าพักอาศัยเพราะแวดล้อมด้วยธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็มีการออกแบบให้ได้รับแสง และลมธรรมชาติ ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้ทุกพื้นที่มีอากาศถ่ายเทหมุนเวียนตลอดเวลา และไม่สะสมความชื้น - ทุกฟังชันในบ้านถูกออกแบบช่องเปิดให้เห็นธรรมชาติภายนอก
โดยช่องเปิดของแต่ละห้อง นั้นจะถูกออกแบบให้อยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถใช้ชีวิตอิงธรรมชาติได้อย่างผ่อนคลายตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ - มีพื้นที่ส่วนกลางรองรับทุกกิจกรรม
พื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่ที่ถูกจัดวางให้มีฟังก์ชันรองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก และสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ในทุกช่วงเวลา ด้วยการออกแบบที่เน้นการใช้สอยพื้นที่อย่างคุ้มค่า และพื้นที่ส่วนกลางนี้จะเชื่อมโยงทุกพื้นที่ในบ้านทำให้ผู้อยู่อาศัย สามารถใช้ชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง - มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น
ต้นไม่ใหญ่เป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้านสไตล์รีสอร์ท ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเป็นจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้มีความร่มรื่น ผ่อนคลาย มีชีวิตชีวายามพักอาศัย - พื้นที่ส่วนตัวมีช่องเปิดรับธรรมชาติ
เพื่อการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์พร้อม การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง จึงมีการออกแบบให้ห้องนอน มีช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ สามารถมองเห็นสวนธรรมชาติได้ ขณะเดียวกันบริเวณห้องน้ำก็ถูกออกแบบให้มีส่วนบังตา และมีพื้นที่สีเขียวพร้อมช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีและไม่อับชื้น
เมื่อบ้านคือพื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง คงจะดีไม่น้อยหากในทุกวันที่อยู่อาศัยและทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติได้ทันที พร้อมใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ ที่ชื่นชอบได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างลงตัว
